เมื่อถึงเวลารับประทานอาหารเย็น กวาเว่ยไม่ได้มาปรากฏตัวที่โต๊ะ ข้ารับใช้จึงถูกสั่งให้ไปตามดูว่านางกำลังทำอะไรอยู่ ข้ารับใช้พบกวาเว่ยนอนอยู่บนพื้นข้างตัวตึก ไม่สามารถลุกขึ้นไหว นางถูกประคองไปนอนที่เตียง ก่อนที่หมอแถวบ้านจะถูกตามตัวมา ท่านลุงหลูเว่ยมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น กวาเว่ยเล่า “ท่านลุง ข้ารู้สึกไม่ค่อยสบายเลย ข้าต้องรับประทานอาหารเย็นด้วยหรือคะ?”
“ถ้าเจ้าไม่อยากก็ไม่ต้องกินดอก” ท่านลุงหลูกล่าวตอบ
หมอกล่าว “มันเป็นผลจากอะไรสักอย่างในท้องของนาง ท่านกินอะไรเข้าไปบ้างวันนี้ กวาเว่ยโกวเนี้ย?”
สาวน้อยตอบกลับ “ไม่ได้รับประทานอะไรเลยตั้งแต่เที่ยงค่ะ นอกจากน้ำตาลก้อนเดียว”
หลูเว่ยหน้าซีดทันทีที่ได้ยิน ท่านย่ำเท้าตึงๆ กลับออกไปจากห้อง พอท่านหมอเดินตามออกมา ท่านลุงของกวาเว่ยรีบเล่า “นางรับประทานยาพิษสำหรับตัวหลิวมู่ที่นางแม่มดแห่งภูผาซูปรุงขึ้นมา พวกเราจะทำอะไรได้บ้าง?”
“นางต้องได้รับยาแก้พิษภายในสี่ถึงหกชั่วยาม มิเช่นนั้นนางจะไม่รอด” ท่านหมอกล่าว
บรรดาทหารใต้บังคับบัญชาของท่านลุงหลูเว่ย รวมทั้งทุกคนที่อยู่ในและรอบตึกที่พักของท่านถูกส่งตัวไต่ขึ้นภูผาซูเพื่อตามหานาง
แม่มดในทันที ตัวหลูเว่ยเองก็ร่วมเดินทางไปด้วย เพราะนี่คือเรื่องสำคัญถึงเพียงนั้น
* * *
ช่วงบ่ายของทุกวัน หลานปู่คนโปรดของหลิงไต้อ๋อง —ท่านชายฮาหลิงเม— มักจะแวะไปเยี่ยมเยียนอ๋องชราเพื่อเล่นหมากรุกเป็นเพื่อนสักตาเสมอ แต่วันนี้หลานปู่คนโปรดกลับไม่ปรากฏตัว เมื่อข้ารับใช้ตามขึ้นไปที่พักของท่านชายฮาหลิงเม เพื่อดูว่าเหตุใดวันนี้ท่านจึงล่าช้า เหล่าข้ารับใช้ก็พบม้ามังกรตัวหนึ่งนอนแผ่หลาอยู่บนพื้นตึกที่พำนักของท่านชาย ด้วยป่วยหนักเกินกว่าจะหยัดกายลุกขึ้นไหว
ทหารระดมกำลังกันมา จ่อปลายหอกล้อมเจ้าสัตว์ที่ป่วยเอาไว้ “เจ้าทำอะไรกับท่านชายฮาหลิงเม!” ทหารคนหนึ่งร้องถาม
ม้ามังกรป่วยหนักตอบกลับ “ข้านี่แหละคือฮาหลิงเม ข้าป่วยเกินกว่าจะคืนกลับร่างมนุษย์ไหว”
พวกทหารไม่แน่ใจว่าจะเชื่อคำพูดของมันดีหรือไม่ แต่กระนั้นก็ตัดสินใจหามร่างของตัวหลิวมู่ที่ป่วยหนักขึ้นเกวียนเข็นไปยังวัง
หลิงไต้อ๋องออกมาที่ลานวังเพื่อสนทนากับหลิวมู่ ท่านจดจำดวงตาที่โศกเศร้าและน้ำเสียงสุภาพของฮาหลิงเมได้ “ท่านปู่” ม้ามังกรขี้เหร่กล่าว “เพราะว่าข้าไม่เคยได้รับอนุญาตให้พบหน้าคู่หมั้นของข้า หลานสาวของท่านแม่ทัพหลูเว่ย ข้าเลยแปลงกายเป็นร่างนี้เพื่อไปหานางที่สวนของท่านลุงของนาง ตอนนี้ข้าเกิดล้มป่วยและไม่อาจเปลี่ยนกลับร่างเดิมได้”
หลิงไต้อ๋องมองไปยังเหล่าผู้คนในรั้ววังของท่านที่ต่างมารวมตัวกันที่ลานวังเพื่อดูเจ้าม้ามังกรขี้เหร่ จากนั้นท่านอ๋องก็ประกาศความลับที่เก็บซ่อนเอาไว้อย่างยาวนานให้ทุกคนฟัง:
“บุตรชายของข้า เจ้าชายหลิง ผู้พลีชีพอย่างกล้าหาญในการรบเมื่อสิบปีก่อนโน้นมีภรรยาทั้งสิ้นสามนาง ภรรยาโปรดของเจ้าชายหลิงคือเจ้าหญิงฉู ซึ่งหายตัวไปหลังการเสียชีวิตของบุตรชายของข้า
มีข่าวลืออยู่หนาหูว่าหญิงงามผู้นั้นแท้จริงแล้วคือเทพธิดาบนสรวงสวรรค์ และนางกลับไปยังแดนสวรรค์หลังจากที่สามีของนางสิ้นชีวิต นางทิ้งไว้เพียงแต่เด็กชายเพียงคนเดียว ท่านชายฮาหลิงเมตัวน้อย เด็กหนุ่มหน้าตาพื้นๆ ธรรมดา แต่นิสัยสุภาพเรียบร้อยอันเป็นที่รักของทุกผู้คน อย่างที่พวกเจ้าเห็น ท่านชายฮาหลิงเมคือลูกหลานเหล่าเทพยดา ตอนนี้เกิดล้มป่วยในร่างจำแลงเป็นตัวหลิวมู่ มีบุคคลเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถจะพยาบาลรักษาหลิวมู่ได้คือนางแม่มดแห่งภูผาซู ทหารทุกนายของข้า รวมทั้งแม่บ้านโรงครัวและข้ารับใช้ทุกคน จงมุ่งหน้าไปสู่ภูผาซูในทันที หาตัวนางแม่มดให้เจอเพื่อจะได้ช่วยชีวิตหลานของข้าคนนี้”
* * *